วันพุธที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2552

สัปดาห์ที่ 4 ระบบเลขฐาน





ระบบตัวเลขที่เรารู้จักกันมากที่สุด คือตัวเลข 0,1,2,3,4,5,6,7,8,9 รวม 10 ตัว ซึ่งตัวเลขทั้ง 10 ตัวนี้ เราใช้เป็นเครื่องมือหลักในการนับจำนวนทั้งหลายตามความต้องการ เราจึงกำหนดฐานของระบบตัวเลขนี้ว่า เลขฐานสิบ (Decimal number) เพราะมีสัญลักษณ์ ที่ใช้แทนค่าตัวเลขจำนวนต่าง ๆ นั้นมีอยู่ 10 ตัวไม่ซ้ำกัน แต่ละแบบมีเพียง 1 ตำแหน่ง ดังนั้นต่า ของตัวเลขที่มีค่ามากกว่า 9 ขึ้นไป ก็จะเป็นจำนวนตัวเลขที่เกิดจากการนำตัวเลข 10 ตัวดังกล่าว มาเรียงประกอบกันขึ้น
ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีสมัยใหม่ได้ถูกพัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็ว เครื่องคำนวณสมองกล หรือ COMPUTER ก็ถูกพัฒนาขึ้น หลักการทำงานของเครื่อง COMPUTER คืออาศัยการไหล หรือหยุดไหลของสัญญษนในช่วงจังหวะเวาต่างๆกัน เหมือนกับการปิดเปิดสวิทซ์นั่นเอง การทำงาน ของเครื่อง COMPUTER ในแต่ละส่วนจึงเป็นแบบ 2 จังหวะตลอดเวลา ด้วยเหตุนี้เองค่าในเลขฐานสอง (Binaly number) จึงแทรกเข้ามามีบทบาทบ้าง เพราะมันมีค่า 0 กับ 1 ซึ่งสมมูลย์กับค่าปิดเปิดของสวิทซ์ นอกจากเลขฐานสองแล้ว เรายังมีเลขฐานแปด (Octal number) และเลขฐานสิบหก (Hexadecimal number) อีกด้วย เพราะสะดวกในการนำไปใช้ตรวจการทำงานของเครื่อง COMPUTER ในแต่ละขั้นตอนเป็นอันมาก



ระบบตัวเลข (Number systems)
ระบบตัวเลขแต่ละระบบจะมีจำนวนตัวเลขที่ใช้เหมือนกับชื่อของระบบตัวเลขนั้น และมีฐาน(Base) ของจำนวนเลขตามชื่อของมันด้วย เช่น
ระบบเลขฐานสอง (Binaly number systems) ประกอบด้วยเลข 2 ตัว คือ 0,1
ระบบเลขฐานแปด (Octal number systems) ประกอบด้วยเลข 8 ตัว คือ 0,1,2,3,4,5,6,7
ระบบเลขฐานสิบ ( Decimal number systems) ประกอบด้วยเลข 10 ตัวคือ 0,1,2,3,4,5,6,7,8,9
ระบบเลขฐานสิบหก (Hexadecimal number systems) ประกอบด้วยเลข 16 ตัว คือ 0,1,2,3,4,5,6,7,8,9,A,B,C,D,E,F (เมื่อ A=10,B=11,C=12,D=13,E=14,F=15)















































ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น